โฟมยาแนวชนิดไหนเหมาะกับงานช่างของคุณ? เราอธิบายความแตกต่าง วิธีการใช้ และช่วยให้คุณอุดรูรั่วได้สำเร็จ เหมาะสำหรับงานได้ตรงโจทย์
โพลียูรีเทนซีลเลอร์หรือโฟมยาแนวเป็นวัสดุอุดรอยต่อสำหรับงานก่อสร้างที่มีความยืดหยุ่นและใช้งานได้หลากหลาย ทั้งยังเหมาะสำหรับพื้นผิวหลายประเภท อาทิ ไม้ โลหะ พลาสติก อิฐก่อ อลูมิเนียม ปูนปั้น และอีกมากมาย ทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำและยืดหยุ่นได้ดีในทุกสภาพอากาศ จึงทำให้เหมาะสำหรับการอุดช่องว่างและรอยต่อด้านนอกของโครงสร้างได้เป็นอย่างดี
แม้ว่ากาวโพลียูรีเทนจะมีคุณสมบัติบางอย่างเหมือนกันกับโฟมยาแนว แต่ก็ไม่เหมือนกันเสมอไปและไม่ควรนำมาใช้สำหรับงานประเภทเดียวกัน เพราะกาวโพลียูรีเทนได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความแข็งแรงในการรับน้ำหนักแก่โครงสร้างได้มาก ในขณะที่โฟมยาแนวโพลียูรีเทนมีความยืดหยุ่นสูงและมีจุดประสงค์เพื่อให้ผนึกแน่นทั้งอากาศและน้ำ
การทาโฟมยาแนวทำได้ง่ายเพียงอาศัยเครื่องมือที่เหมาะสม นี่คือขั้นตอนและสิ่งจำเป็นที่คุณต้องใช้
สิ่งที่ต้องใช้:
- ปืนยิงกาว
- มีดอเนกประสงค์
- ตลับโฟมยาแนว
- สารปรับความเรียบที่เข้ากับงาน
วิธีใช้:
- ตัดปลายบรรจุภัณฑ์ โให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ
- เจาะตลับโฟมยาวแนว จากนั้นใส่เข้าไปในปืนยิงกาว
- รองพื้นตลับและทำการทดสอบ โดยสามารถเทสต์บนพื้นผิวแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อให้แน่ใจว่าขนาดลูกปัดถูกต้อง
- ใช้ยาแนว โดยทำตามคำแนะนำในคู่มือการใช้ของผู้ผลิต
- ใช้สารปรับความเรียบ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำคู่มือการใช้ของผู้ผลิต
มีโฟมยาแนวที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับงานตกแต่งและงานซ่อมแซมทั่วไปได้อย่างดี ทั้งใช้งานง่าย สะดวก และให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เหมาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการอุดช่องว่างรอบกรอบหน้าต่าง ประตู ผนังข้าง โครงโรงรถ รอยต่อ และแผ่นธรณีประตู
แนะนำให้ใช้แพทเท็คส์ ซิลิโคนยาแนวเอนกประสงค์ชนิดเป็นกลาง ที่ให้แรงยึดเกาะที่เหนือกว่า ติดวัสดุก่อสร้างได้โดยไม่ต้องรองพื้น โดยคุณสามารถใช้ยาแนวรอยต่อรอบประตูและหน้าต่าง บนหลังคา ท่ออากาศ ยึดติดเซรามิค คอนกรีต อิฐ ไม้ และอลูมิเนียมได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีความทนทานต่อแสงยูวีและทนต่อทุกสภาพอากาศ จึงเหมาะที่จะใช้ทั้งงานทั้งภายในและภายนอกบ้าน แถมยังไม่กัดกร่อนโลหะ เซรามิก คอนกรีต รวมทั้งหินอ่อนด้วย
แชร์โปรเจคของคุณ